“มหาเมตตา สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี”

สมเด็จพระพุ

“มหาเมตตา สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี”

สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี เป็นพระภิกษุผู้มีคุณอันประเสริฐ ปฏิบัติตนอยู่ในสมณะเพศอันบริสุทธิ์ เจริญธรรมพิเศษ คือ มีความเมตตา กรุณา และปรารถนา ที่จะให้ทั้งบุคคลและสัตว์ทั้งหลาย พ้นทุกข์ ทรงสั่งสอนการมีเมตตา จนเป็น “เมตตามหานิยม” ดังมีเรื่องเล่าความมีเมตตาของท่านคือ

ครั้งหนึ่งมีบ่าวของท่านพระยาคนหนึ่ง บ้านอยู่หลังตลาดบ้านขมิ้น จังหวัดธนบุรี เสพสุรามึนเมาเข้าไปหาสมเด็จฯ ถามว่า “นี่หรือคือสมเด็จที่เขาเลื่องลือกันว่ามีวิชาอาคมขลัง อยากจะลองดีนัก” พอพูดขาดคำก็ตรงเข้าชก แต่ท่านหลบทันเสียก่อน แล้วท่านบอกให้บ่าวคนนั้นรีบหนีไปเสีย ด้วยเกรงว่ามีผู้พบเห็นจะถูกจับกุมมีโทษ ความนั้นได้ทราบถึงท่าน พระยาผู้เป็นนาย จึงจัดการลงโทษบ่าวคนนั้น โดยเอาโซ่ล่ามไว้กับขอนไม้ที่สนามหญ้าหน้าบ้าน ท่านทราบเรื่องได้ไปเยี่ยม เอาเงิน ๑ สลึงกับอาหารคาวหวานไปให้บ่าวคนนั้น ทุกวัน ฝ่ายท่านพระยาคิดเห็นว่า การที่สมเด็จฯ ทำดังนั้น ชะรอยท่านจะมาขอให้ยกโทษโดยทางอ้อม จึงให้แก้บ่าวนั้นปล่อยให้เป็นอิสระ

เมื่อครั้งท่านธุดงค์ พบสัตว์กำลังอยู่ในระหว่างมีทุกข์ เพราะติดอยู่ที่บ่วงท่านก็ปลดปล่อยสัตว์นั้นให้พ้นทุกข์แล้วเอาเท้าของพระ คุณท่านไว้แทนที่รอกระทั่งเจ้าของบ่วงมาถึง จึงขอบิณฑบาตรสัตว์นั้นแล้วเทศน์อานิสงฆ์การทำบุญเพื่อให้เจ้าของบ่วงเลิกทำอกุศล

คราวหนึ่งขณะที่ สมเด็จพระพุฒาจารย์โต กำลังจำวัดอยู่ในเวลาดึกสงัด มีขโมยแอบย่องเข้ามาใต้ถุนกุฏิ เอื้อมมือขึ้นทางช่อง หวังหยิบเอาตะเกียงลานที่วางอยู่ทางปลายเท้าของท่าน แต่หยิบไม่ถึง เจ้าประคุณสมเด็จฯ รู้ตัวตื่นขึ้นพอดีท่านไม่ได้ร้องไล่ แต่กลับเอาเท้าเขี่ยตะเกียงให้

อีกคราวตอนท่านกลับจากแสดงธรรมเทศนาที่ต่างจังหวัดโดยทางเรือ ได้เครื่องกัณฑ์เทศน์เป็นเสื่อ หมอนระหว่างจอดเรือพักนอนตอนกลางคืน มีขโมยลอยเรือเข้ามาเงียบๆ คว้าเอาเสื่อไปเจ้าประคุณเฝ้าดูอยู่ในความมืด จึงพูดขึ้นเรียบๆ ว่า “เอาหมอนไปด้วยสิจ๊ะ” พวกโจรตกใจรีบจ้ำเรือหนี ท่านก็โยนหมอนตามไปให้

คราวหนึ่งสองผัวเมียเป็นทุกข์เรื่องค้าขายแตงโมกำลังจะเน่าขาดทุนต้องเป็นหนี้สิน ครั้นสมเด็จฯท่านผ่านมาพบ และรู้ว่าสองผัวเมียนี้เป็นทุกข์เรื่องค้าขายขาดทุน พระคุณท่านจึงช่วยซื้อแตงโมเท่าที่มีปัจจัยจากคนอื่นถวาย เมื่อซื้อแตงโมพร้อมจ่ายเงินให้แล้วก็ยกแตงโมให้สองผัวเมียอีกด้วย ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า ทรัพย์สมบัติในทางโลกของพระคุณท่านนั้นท่านไม่มีความปรารถนาและไม่สะสมเลย

ด้วยเหตุนี้ “พระพิมพ์สมเด็จ”ที่สร้างจากพระผงวิเศษของท่าน จึงเป็นพระพิมพ์ ที่ก่อให้เกิด“เมตตามหานิยม”แก่ผู้ที่มีไว้เคารพบูชา เนื่องจากเป็นพระพิมพ์ที่สร้างโดยเจ้าประคุณสมเด็จฯ ผู้เต็มเปี่ยมด้วยเมตตาธรรมต่อมวลมนุษย์และสัตว์ทั้งหลายอย่างล้นพ้น ไม่มีประมาณ







โดยสมาชิก ชื่อ มะ อะ อุ
จากกลุ่ม ชมรมผู้นิยมพระเครื่องเบญจภาคี