อ่านเพิ่มเติม "พระพุทธเชียงแสน วัดไผ่ล้อม อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี"" />

พระพุทธเชียงแสน วัดไผ่ล้อม อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี

พระพุทธเชียงแสน วัดไผ่ล้อม
อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี

พระพุทธเชียงแสน วัดไผ่ล้อม
อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี ปี 2515

วัดไผ่ล้อมสร้างขึ้นเป็นวัดนับตั้งแต่ประมาณ พ.ศ. 2212 สมัยอยุธยาตอนปลาย ได้มีนามตามชื่อหมู่บ้าน เป็นวัดชนิดได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาแล้ว ประมาณ พ.ศ. 2222 ตามหลักฐานบันทึกไว้ในทะเบียนของวัด แจ้งว่าตั้งอยู่ เลขที่ 16 หมู่ที่ 1 ตำบล (สิบต๊ะ) สวนดอกไม้ อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี สร้างประมาณปี พ.ศ. 2122 สมัยสมเด็จพระนารายณ์ ส่วนหลักฐานอื่นไม่มีผู้ใดได้จดบันทึกไว้ ถาวรวัตถุก็ไม่หลงเหลือไว้ให้ศึกษาค้นคว้าได้

ตามประวัติศาสตร์มนุษยชาติในยุคนั้น การที่จะจัดตั้งเป็นประกาศมีสัดส่วนที่มั่นคงไม่มี ส่วนใหญ่จะเป็นเมือง โดยมีเจ้าเมืองปกครองดูแล เมืองที่กล้าเก่งกว่ายกทัพมาโจมตี เมืองที่พ่ายแพ้ก็ตกเป็นเมืองขึ้น หรือถูกกวาดต้อนไปรวมเป็นกำลังเสริมที่จะรุกรานขยายอาณาเขต เมื่อรวมได้หลายๆ เมืองก็จัดตั้งเป็นประเทศมีเมืองหลวงเป็นศูนย์การปกครอง เช่น กรุงสุโขทัย กรุงศรีอยุธยา ต่างชาติต่างเผ่าพันธ์ไม่สามารถเข้าไปร่วมกันได้ต่างก็อพยพหนีไปหาที่อยู่ใหม่ พวกที่ไม่สามารถจะไปไหนได้ก็แทรกตัวอยู่เป็นชนกลุ่มน้อยอยู่ในเมืองหรือประเทศนั้น ประเทศไทยจึงมีชนหลายเผ่าพันธ์ เมื่อไปอยู่ชุมชนใด เป็นกลุ่มมากพอต่างก็นำเข้าประเพณีและวัฒนธรรมขึ้นมากำหนดตั้งเพื่อให้เป็นที่ปฏิบัติร่วมชาวไทยนับถือพระพุทธศาสนา ก็พากันจัดตั้งสำนักสงฆ์ เพื่อให้พระสงฆ์มาอยู่ช่วยการปฏิบัติศาสนกิจตามหลักธรรมของพระพุทธศาสนาเมื่อมีพระสงฆ์และชาวพุทธมากขึ้น มีกำลังพอที่จะจัดตั้งสำนักสงฆ์เป็นวัดมีวิสุงคามสีมาได้ก็รวมกันจัดทำ ด้วยเหตุผลดังกล่าวนำมาข้างต้น ก็พอที่จะมีหลักฐานกล่าวถึงประวัติความเป็นมาของการตั้งวัดไผ่ล้อมได้พอสมควร

ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 1 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โปรดให้กรมหมื่นเทพทรรักษ์และพระปราบ นำทัพไปขับไล่พม่าออกจากเมืองเชียงแสน พ.ศ. 2347 พม่าพ่ายแพ้ถอยร่นกลับไป ก็ให้เผาเมืองเชียงแสน แล้วรวบรวมผู้คนชาวเชียงแสนได้จำนวนหนึ่งอพยพลงมาแต่ในระหว่างบางส่วนต่างก็กระจัดกระจายกันปักหลักอยู่ตามระยะทางที่ผ่านมาคือ เวียงจันทร์ เชียงใหม่ ลำปาง น่าน ส่วนพวกที่มาถึง ได้โปรดให้ตั้งบ้านเรือนที่เมืองสระบุรี เมืองเสาไห้ (ในสมัยนั้นเมืองสระบุรีเป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งของเมืองเสาไห้) อีกส่วนหนึ่งไปตั้งรกรากอยู่ที่บ้านคูเมือง พวกที่มาจากเชียงแสน (โยนกนาคนคร) หรือชาว ไทยวน ได้มาตั้งบ้านเรือนอยู่ ณ ตำบลเสาไห้ (หมู่บ้านไผ่ล้อม) ตำบลสวนดอกไม้ (สิบต๊ะ)ตำบลต้นตาล ตำบลพระยาทด ตำบลท่าช้าง ตำบลศาลารีไทย ตำบลบ้านยาง และตำบลหัวปลวก “ปู่คัมภีระ” หัวหน้าผู้นำอพยพของชาวเชียงแสนพร้อมขุมกำลังผู้ใกล้ชิดได้ตั้งบ้านเรือนอยู่ ณ บ้านโบราณซึ่งอยู่คนละฝั่งวัดไผ่ล้อม ต่อมา สมัยรัชกาลที่ 2 ได้แต่งตั้งปู่คัมภีระมีบรรดาศักดิ์เป็น “พระยารัตนกาศ” มีหน้าที่คุมกำลังส่งเสบียงให้พลรบยามเกิดศึกสงครามด้านทิศตะวันออก(ศึกเขมร)กองกำลังมีกองโตตั้งอยู่ 3 แห่ง อยู่ที่สี่คิ้ว 1 กอง โคกกร่าง 1 กอง และโคกแย้ 1 กอง และมีกองม้าอยู่ที่บ้านยาง 1 กอง ไว้เป็นหน่วยคุ้มกันกองเสบียง เมื่อมีขุมกำลังอำนาจหน้าที่เช่นนี้จึงเชื่อได้ว่า วัดไผ่ล้อมต้องได้รับการทำนุบำรุงให้ดีขึ้น โดยฝีมือของชาวไทยวนที่อพยพมาจากเชียงแสน

ต่อมาผู้อพยพสายตระกูลปู่คัมภีระได้สืบต่อตำแหน่ง “พระยารัตนกาศ” มีลูกหลานหลายคน คนสุดท้ายเป็นบุตรของพ่อเฒ่ามหาวงศ์ ได้เป็นนายอำเภอเสาไห้ คนที่ 2 พ.ศ. 2439 ถึง พ.ศ. 2443 และได้ตั้งบ้านเป็นสำนักงานที่ทำการอำเภอเสาไห้อยู่ที่บ้านไผ่ล้อมจนถึง ณ ปัจจุบันนี้

พระพุทธเชียงแสนเนื้อทองเหลืองผิวกลับ ขนาดองค์พระหน้าตักกว้าง 5 นิ้ว ใต้ฐานอุดพระผงพิมพ์สังกัจจายน์อบบจีน สวยงามแบบเดิมๆ

สนใจสอบถามได้ครับ
กทม.นัดรับได้
โทร.091-767-0256







โดยสมาชิก ชื่อ Athip Udom
จากกลุ่ม กลุ่มพระบูชา พระพุทธรูป ใหม่-เก่า ทุกยุค 9นิ้ว7นิ้ว5นิ้ว3นิ้ว

Exit mobile version