“หลวงปู่บุญ ขันธโชติ”
(*”พระพุทธวิถีนายก”)
แห่งวัดกลางบ

“หลวงปู่บุญ ขันธโชติ”
(*”พระพุทธวิถีนายก”)
แห่งวัดกลางบางแก้ว
จังหวัดนครปฐม..

“หลวงปู่บุญ” ชาตะเมื่อ
วันที่ ๓ กรกฎาคม
พุทธศักราช ๒๓๙๑
อันเป็นปีที่ ๒๕ แห่งแผ่น
ดิน “พระบาทสมเด็จพระ
นั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว”
(รัชกาลที่ ๓)
ณ ตำบลท่าไม้ อำเภอ
กระทุ่มแบน จังหวัด
สมุทรสาคร..

“เหตุ” แห่งมีนามว่า “บุญ”
โดยเมื่อวัยทารก ท่านมี
อาการป่วยหนักถึงแก่
สลบไป และไม่หายใจ..
ในที่สุด บิดามารดาและ
ญาติเห็นว่าท่านได้ตาย
เสียแล้ว..
จึงเตรียมนำท่านไปฝัง
แต่ปรากฏว่ายังไม่ทันที่
จะได้ฝัง ท่านก็กลับฟื้น
ขึ้นมา บิดามารดาจึงได้
ถือเอาเหตุนี้ ตั้งชื่อให้แก่
ท่านว่า “บุญ”

“หลวงปู่” อุปสมบทเมื่อ
อายุได้ ๒๒ ปี..
ณ พัทธสีมา วัดกลาง
บางแก้ว..
ในวันที่ ๒๑ มิถุนายน
พุทธศักราช ๒๔๑๒
“พระปลัดปาน”
เจ้าอาวาสวัดพิไทย
ทาราม (*วัดตุ๊กตา)
เป็นพระอุปัชฌาย์..

โดยขนานนามฉายาให้
ว่า “ขนฺธโชติ”
แล้วให้จำพรรษาอยู่กับ
“พระปลัดทอง” ณ วัด
กลางบางแก้ว..

“หลวงปู่บุญ” ได้ถูกวาง
พื้นฐานในทางธรรม มา
อย่างดีแล้วตั้งแต่ยังเป็น
เด็กวัด และสามเณร..
ซึ่งช่วงระยะเวลาดังกล่าว
ประมาณ ๕-๖ ปี..
ที่ได้อยู่ปรนนิบัติรับใช้
“พระปลัดทอง”
จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าพื้น
ฐานในทางธรรมของท่าน
ถูกถ่ายทอดมาโดย..
“พระปลัดทอง” แทบทั้งสิ้น
พระอาจารย์อีกรูปหนึ่ง
ของท่านคือ”พระปลัดปาน”
(*เจ้าอาวาส วัดตุ๊กตา)

จากปากคำของ “พระครู
ธรรมวิจารณ์” (ชุ่ม)
เจ้าอาวาสวัดศรีสุดาราม
(*วัดชีปะขาว) บางกอก
น้อย..
เคยกล่าวไว้ว่าหลวงปู่บุญ
ได้เล่าเรียนกรรมฐานและ
อาคม กับ “ท่านปลัดปาน”
รวมถึง ยังมีอาจารย์ที่ได้
ถ่ายทอด วิชาความรู้ทาง
ธรรม ทั้งปริยัติและปฏิบัติ
ตลอดจนพระเวท และ
พุทธาคม ให้แก่ท่านอีก
หลายรูปด้วยกัน..

ปีพุทธศักราช ๒๔๗๑
“หลวงปู่บุญ” ได้รับพระ
กรุณาโปรดให้เป็น..
“พระราชาคณะ”
ที่ พระพุทธวิถีนายกนั้น
ท่านมีอายุได้ ๘๑ ปีแล้ว
งานบริหารกิจการสงฆ์
จังหวัดนครปฐม และ
สุพรรณบุรี..
ได้ดำเนินมาด้วยความ
เรียบร้อย..

“หลวงปู่บุญ” เป็นพระที่
มีความเมตตากรุณาแก่
บุคคลทั้งหลายเป็นอัน
มาก ท่านได้อุปการะพระ
ลูกวัดตลอดจนสานุศิษย์
และ เกื้อกูลชาวบ้านอยู่
เป็นนิจ จนตลอดอายุขัย
ของท่าน ทั้งนี้เกิดจาก
เป็นนิสัยโดยกำเนิดของ
ท่านที่เป็นผู้มีใจเป็นบุญ
กุศล และปฏิเสธการกระ
ทำอันเป็นบาปมาตั้งแต่
เยาว์วัย..

ระยะหลัง “หลวงปู่บุญ”
เข้าสู่วัยชราภาพ สังขาร
ก็ทรุดโทรมร่วงโรยลง
ไปตามวันเวลา..
ท่านจึงกราบทูลขอลา
ออกจากคณะสงฆ์..

ปีพุทธศักราช ๒๔๗๔
“หลวงปู่บุญ” อายุ ๘๔ ปี
ทางการคณะสงฆ์จึงเห็น
เป็นการสมควร ให้ท่าน
ได้พักผ่อนเสียที โดยให้
ท่านได้รับพระราชทาน
ยศเป็นกิติมศักดิ์..

จึงได้ติดต่อให้กระทรวง
ศึกษาธิการในสมัยนั้น
นำความขึ้นกราบบังคมทูล
พระกรุณาทราบฝ่าละออง
ธุลีพระบาท ทรงโปรด
พระราชทานพระบรม
ราชานุญาต ให้ยกเป็น
“กิติมศักดิ์”
หลังจากนั้น “หลวงปู่บุญ”
จึงได้พักผ่อนจากการ
บริหารคณะสงฆ์..
คงปฏิบัติแต่กิจพระศาสนา
ทำนุบำรุง พระอารามเป็น
การภายใน ตั้งแต่บัดนั้น
เป็นต้นมา..

“หลวงปู่บุญ ขันธโชติ”
ได้มรณภาพลงเมื่อวันที่
๓๐ มีนาคม พุทธศักราช
๒๔๗๘ิเวลา ๑๐.๔๕ น.
(*โดยโรคคาพาธ ณ กุฏิ
ของท่าน..)
สิริอายุได้ ๘๙ พรรษา ๖๗

แม้ว่าท่านได้มรณภาพไป
แล้วก็ดี คุณงามความดีซึ่ง
ท่านได้กระทำไว้ ก็ปรากฏ
ตลอดมาจนบัดนี้..

……………………………………..
(*เรียบเรียงโดย)
#เพจประตูสู่อดีต
#แอดมินจ๋า🌺



โดยสมาชิก ชื่อ Angsumalin Blue
จากกลุ่ม เครื่องราง พระเครื่อง เมืองไทย