“พิจารณา มหาพิจารณา” อัจฉริยะของท่านเจ้าประคุณสมเด็จ โต

“พิจารณา มหาพิจารณา” อัจฉริยะของท่านเจ้าประคุณสมเด็จ โต พรหมรังสี

ครั้งหนึ่งที่แสดงถึงความเป็นอัจฉริยะของท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯในคราวที่แสดงธรรมต่อหน้านักปราชญ์ชาวต่างประทศ ซึ่งรอบรู้ศาสนาเป็นอย่างดี ในกาลครั้งนี้สมเด็จเจ้าพระยาให้ทนายมาอาราธนา สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) ไปแสดงความรู้ในสิ่งที่ถูกที่ชอบด้วยโลกและธรรมในพุทธศาสนาในนามประเทศยาม ครั้นสมเด็จพระพุฒาจารย์ยินคำอาราธนา จึงรับว่าฉันยินดีแสดงนักในข้อเข้าใจ ทนายกลับไปเรียนสมเด็จพระประสาทว่า สมเด็จ ฯ ที่วัดรับแสดงในเรื่องให้รู้ความผิดถูกทั้งปวงได้

พอถึงวันกำหนดท่านเจ้าคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) ไปถึงที่ประชุม นักปราชญ์ทั้งหลายยอมให้นักปราชญ์ของไทยออกความก่อนในที่ประชุม ปราชญ์ ขุนนาง ทั้งปวง ก็มาประชุมพึ่งอยู่ด้วย สมเด็จพระประสกจึงอาราธนาสมเด็จ ฯ ที่วัดระฆังขึ้นบัลลังก์แล้วนิมนต์ให้แสดงทีเดียว

สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) ก็ออกวาจาสำแดงขึ้นว่า พิจารณา มหาพิจารณา พิจารณา มหาพิจารณา พิจารณา มหาพิจารณา พิจารณา มหาพิจารณา กล่าวพึมพำสองคำเท่านี้สักชั่วโมงหนึ่ง สมเด็จพระประสาทลุกขึ้นจี้ตะโพกเจ้าประคุณสมเด็จแล้วกระซิบเตือนว่า เจ้าคุณขยายคำอื่นให้เขาพึ่งบ้างซิ

สมเด็จ ฯ ท่านตะโกนดังกว่าครั้งที่หนึ่งขึ้นอีกชั้นหนึ่ง ขึ้นเสียงว่า พิจารณา มหาพิจารณา พิจารณา มหาพิจารณา ว่าอยู่นานอีกชั่วโมงเศษ สมเด็จพระประสาทไม่รู้จะทำอย่างไรก็ลุกขึ้นมาจี้ตะโพกสมเด็จ ฯ โต ว่าท่านเจ้าคุณควรขยายคำอื่นให้เขาฟังรู้บ้าง เจ้าประคุณสมเด็จโตเลยตะโกนดังกว่าครั้งที่สองขึ้นอีกชั้นหนึ่งว่า พิจารณา มหาพิจารณา พิจารณา มหาพิจารณา พิจารณา มหาพิจารณา

อธิบายว่าการของโลกก็ดี การของชาติก็ดี การของศาสนาก็ดี กิจที่พึงกระทำต่าง ๆ ในโลกก็ดี กิจควรกระทำสำหรับข้างหน้าก็ดี กิจควรทำให้สิ้นธุระทั้งปัจจุบันและข้างหน้าก็ดี สำเร็จกิจเรียบร้อยดีงามได้ด้วยการพิจารณาเป็นขั้น ๆ พิจารณาเป็นเปราะ ๆ พิจารณาเข้าไปตั้งแต่หยาบ ๆ และปานกลาง ๆ และชั้นสูงชั้นละเอียด พิจารณาให้ประณีตละเมียดเข้าจนถึงที่สุดแห่งเรื่อง ถึงที่สุดแห่งกรณี ให้ถึงที่สุดแห่งประโยชน์ยืดยาวพิจารณาให้รอบคอบทั่วถึงแล้ว ทุกๆคนจะรู้จักประโยชน์คุณเกื้อกูลตนตลอดทั้งเมื่อนี้และเมื่อหน้า จะรู้ประโยชน์อย่างยิ่งได้ก็ต้องอาศัยการพิจารณา เลือกเฟ้นค้นหาของดีของจริง เด่นเห็นซัดปรากฏแก่คน ก็ด้วยการพิจารณาของคนนั่นเอง ถ้าคนใดสติน้อย ด้อยปัญญา พิจารณาเหตุผล เรื่องราวกิจการงานของโลก งานของธรรมแต่พื้น ๆ ก็รู้ได้พื้นๆ ถ้าพิจารณาด้วยสติปัญญาเป็นอย่างกลางก็รู้เพียงชั้นกลาง ถ้าพิจารณาด้วยสติปัญญาอันละเอียดลึกซึ้งในข้อนั้น ๆอย่างสูงสุด ไม่หลับหูหลับตา ไม่งมงายแล้วอาจจะเห็นผลแก่ตน ประจักษ์แท้แก่ตนเอง ดังปริยายทุกประการ ด้วยประการละฉะนี้

ครั้นจบแล้ว ท่านลงจากบัลลังก์ ก็ไม่มีนักปราชญ์ชาติอื่น ๆ มีแขกและฝรั่ง เป็นต้นก็ไม่อาจออกปากขัด และคัดค้านถ้อยคำของท่านสักคน สมเด็จเจ้าพระยาพยักหน้าให้หมู่นักปราชญ์ในชาติทั้งหลายที่มาประชุมคราวนั้นให้ขึ้นบัลลังก์ ต่างคนต่างแหยงไม่อาจนำสิ่งใดออกแสดงแถลงในที่ประชุมได้ ถึงต่างคนต่างเขียนมาก็จริง แต่คำของสมเด็จพระพุฒจารย์ (โต) ครอบจักรวาลจะยักย้ายโวหารหรือจะอ้างเอาคำสั่งสอนของศาสดาแห่งตนมาเล่าในที่ประชุม เรื่องของตัวก็ชักจะก้าวต่ำ จะขึ้นเหนือความพิจารณาที่สมเด็จ ฯ กล่าวนั้นไม่ได้เลย ได้แต่พยักหน้าเกี่ยงให้ขึ้นบัลลังก์ใครก็ไม่อาจขึ้น สมเด็จพระประสาทเองก็ทราบดีเห็นจริงตามคำปริยายของท่านสมเด็จฯว่าการพิจารณานั้น จะรู้ได้ตามชั้นตามภูมิ ตามกาล ตามบุคคล ที่ยิ่งและหย่อนอ่อนและกล้าจะรู้ได้ก็ด้วยการพิจารณา ถ้าไม่พิจารณาก็หาความรู้ไม่ได้เลยถ้าพิจารณาต่ำหรือถ้าพิจารณาน้อย ก็มีความรู้น้อยห่างควานรู้จริง ตามที่สมเด็จ ฯกล่าวทุกประการ วันนั้นก็เป็นอันเลิกประชุมนักปราชญ์ ต่างคนต่างกลับ และต่างชื่นชมในความเป็นอัจฉริยะของท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ







โดยสมาชิก ชื่อ มะ อะ อุ
จากกลุ่ม เครื่องราง พระเครื่อง เมืองไทย