“ดุจดั่งมีชีวิตชีวาตำนานหมูโทนจอมขมังเวทย์”

วัตถุมงคลท

“ดุจดั่งมีชีวิตชีวาตำนานหมูโทนจอมขมังเวทย์”

วัตถุมงคลทนสิทธิ์เขากวางคุตเป็นของดีที่เกิดขึ้นเอง
โดยธรรมชาติ เป็นเครื่องรางที่มีความเข้มขลังในตัวเอง
พระอาจารย์โบราณรุ่นเก่าท่านนิยมมาทำมาสร้างวัตถุมงคล
ให้กับลูกศิษย์ลูกหาหรือคนใกล้ชิด สมัยที่ท่านไปเดินธุดงค์เก็บมาได้
แต่ด้วยเหตุผลประการใด ผมไม่ทราบว่า ศิลปะท่านแฝงด้วยจิตวิญญาณ
เหมือนมีชิวิตจริงๆทุกชิ้นทุกผลงานของหลวงพ่อ”จบที่ความเก่าและศิลปะ”

กราบเท้าบารมีปรมาจารย์ หลวงพ่อเฮง วัดเขาดิน นครสวรรค์

ในวงการนักสะสมพระเครื่อง และเครื่องรางของขลังแล้ว น้อยคนนักที่จะไม่รู้จักเครื่องรางของหลวงพ่อเฮง วัดเขาดิน อำเภอเก้าเลี้ยว จังหวัดนครสวรรค์ ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ยุคเก่าสมัยรัชกาลที่ 5 นั่นเลยทีเดียว หรือกล่าวคือ เป็นพระเกจิอาจารย์รุ่นราวคราวเดียวกันกับ หลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย จ.สมุทรปราการ ที่โด่งดังในด้านการสร้างเสือแกะจากเขี้ยวเสือ ซึ่งเป็นเครื่องรางอันดับหนึ่งของประเทศไทยที่เคยเขียนเป็นบทความไปแล้วนั่นเอง

หลวงพ่อเฮงท่านได้สร้างเครื่องรางไว้ให้ลูกศิษย์ใช้ปกป้องคุ้มครองตนโดยให้ช่างแกะสลักงาช้าง (เป็นส่วนใหญ่) ขึ้นมาเป็นรูปคชสีห์ เสือ และหมูโทน โดยส่วนใหญ่ที่พบ คชสีห์จะมีปริมาณมากกว่าเสือและหมูโทน นักสะสมจึงคุ้นกับคชสีห์หลวงพ่อเฮงมากกว่าเครื่องรางชนิดอื่น ทั้งนี้เนื่องจากคชสีห์หลวงพ่อเฮงมีปริมาณและมีเอกลักษณ์งานศิลปเฉพาะตัวที่สวยงามอย่างยิ่ง

วัตถุมงคลประเภทเครื่องรางของขลังของท่านดังมาก“หลวงพ่อเฮง” วัดเขาดิน จ.นครสวรรค์ ตามประวัติท่านเกิดปี พ.ศ.๒๔๐๒ ที่บ้านมหาโพธิ์ ต.มหาโพธิ์ อ.เก้าเลี้ยว จ.นครสวรรค์ โยมบิดาชื่อโยมสังข์ โยมมารดาชื่อโยมเปี่ยม หลังจากท่านเกิดมาครอบครัวก็มีฐานะดีขึ้นตามลำดับ โยมบิดา-มารดาจึงตั้งชื่อให้ว่า“เฮง”ในช่วงที่เป็นฆราวาสท่านมีนิสัยเมตตาต่อสัตว์และชอบให้ทานแก่สัตว์มาตั้งแต่เด็กๆ ขนาดโยมบิดาให้ไปเฝ้านา ท่านเห็นนกมากินข้าวก็ยังไม่ยอมไล่ เพราะท่านถือว่าเป็นการให้ทานแก่นก ท่านเป็นคนที่รักการศึกษา เมื่อมีเวลาว่างจะไปหา“หลวงพ่อทับ วัดมหาโพธิ์” ซึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์ที่โด่งดังในสมัยนั้น เพื่อให้สอนวิชาให้ คือวิชาแพทย์แผนโบราณ คชศาสตร์ และวิทยาคมต่างๆพออายุได้ ๑๒ ปี ท่านก็ขอโยมบิดา-มารดา บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดมหาโพธิ์ใต้ อยู่ได้ ๔ พรรษาก็ลาสึกออกมาช่วยบิดา-มารดาประกอบอาชีพ พออายุครบบวชปี พ.ศ.๒๔๒๓

ท่านจึงเข้าอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดมหาโพธิ์ใต้ โดยมี“พระครูกิ่ม” เจ้าอาวาสวัดมหาโพธิ์ใต้ เป็นพระอุปัชฌาย์เมื่อบวชแล้วก็ได้ศึกษาพระธรรมวินัย ตลอดจนวิชาโหราศาสตร์ และวิทยาคมต่างๆ อีกมากมายจากพระอาจารย์กิ่ม และที่วัดมหาโพธิ์ใต้ ยังเป็นแหล่งรวบรวมวิชาการและตำราต่างๆ ไว้จำนวนมาก อีกทั้งอุโบสถของวัดก็เป็นแบบโบสถ์มหาอุด ซึ่งเป็นที่ปลุกเสกเครื่องรางของขลังได้ยอดเยี่ยม และมีอายุเก่าแก่กว่า ๓๐๐ ปีวัดมหาโพธิ์ใต้ เป็นวัดที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำปิง จึงมีพระเกจิอาจารย์ที่ออกธุดงค์มาแวะพักอยู่เสมอๆ หลวงพ่อเฮงจึงได้รับการถ่ายทอดสรรพวิชาต่างๆ จากพระเกจิอาจารย์เหล่านั้นไปด้วย

ต่อมาท่านก็ได้ออกธุดงค์ไปในป่าดงดิบต่างๆ ถึงพม่า เขมรและลาวหลายครั้ง และท่านก็เข้าใจธรรมชาติของสัตว์ป่าได้ดี และสามารถเรียกอาการ ๓๒ ของสัตว์ที่ตายแล้วให้มาเข้ารูปจำลองที่ได้สร้างขึ้นได้จากการที่“หลวงพ่อเฮง”ได้ธุดงค์ไปตามป่าเขาต่างๆ ท่านจึงได้รู้ว่างาช้างที่มีการทนสิทธิ์ในตัวเองมี ๒ ประเภทคือ งากำจัดและงากำจาย งากำจัดคืองาที่ช้างตัวผู้ตกมันแทงงาหักติดกับต้นไม้ และงากำจายคืองาที่ช้างตัวผู้ต่อสู้กันเพื่อแย่งชิงเป็นจ่าฝูง และแตกหักตกอยู่ในป่า เมื่อหลวงพ่อเฮง ท่านพบก็จะเก็บไว้เพื่อนำมาสร้างเป็นเครื่องรางของขลังต่อมา ซึ่งส่วนมากก็จะมาแกะเป็นรูปเสือ คชสีห์ สิงห์ และหมู หลวงพ่อเฮง เป็นต้น

หลวงพ่อเฮงท่านมรณภาพเมื่อเดือน ๑๒ ปี พ.ศ.๒๔๘๕ สิริอายุ ๘๓ ปี พรรษาที่ ๖๓
วัตถุมงคล เครื่องรางของขลังของหลวงพ่อเฮง ปัจจุบันเป็นที่ชื่นชอบของลูกศิษย์ลูกหาและนักสะสม เครื่องรางของขลังที่มีชื่อเสียงก็คือ งาช้างแกะเป็นรูปสิงห์ เสือ คชสีห์ เป็นต้น ของแท้สภาพสวยสมบูรณ์หายากมาก พุทธคุณเด่นทางด้านแคล้วคลาด คงกระพันชาตรีเป็นเยี่ยมมากมายครับผม …

#กราบขอบพระคุณพื้นที่ดีๆที่แบ่งปันความรู้กันครับผม







โดยสมาชิก ชื่อ ติ๊ก เมืองตาก
จากกลุ่ม เครื่องราง พระเครื่อง เมืองไทย