#พระธัมมวิตักโกภิกขุ พระยานรรัตนราชมานิต

(เจ้าคุณนร วั

#พระธัมมวิตักโกภิกขุ พระยานรรัตนราชมานิต

(เจ้าคุณนร วัดเทพศิรินทร์ กรุงเทพ)

เมื่อเจริญวัยขึ้น เข้าศึกษาวิชาเบื้องต้นที่โรงเรียนวัดโสมนัสฯ จนจบชั้นประถม (ซึ่งเป็นชั้นสูงสุดในสมัยนั้น) และได้เข้าศึกษาชั้นมัธยมที่โรงเรียนวัดเบญจมบพิตร

สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมด้วยการสอบได้ที่ 1 ของสนามสอบ ทั้งนี้ การสอบในสนามสอบในสมัยนั้น เป็นการสอบรวมกันหลายๆ โรงเรียน โดยใช้ข้อสอบเดียวกัน อาจจะกล่าวได้ว่าท่านสอบได้ที่ 1 ของประเทศในสมัยนั้น และได้เข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนข้าราชการพลเรือน (ปัจจุบัน คือ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) โดยเลือกเรียนวิชารัฐศาสตร์ ซึ่งไม่ค่อยตรงกับที่ตั้งใจไว้ เพราะแต่เดิมสนใจในวิชาแพทย์

แต่ด้วยบิดาเป็นนักปกครอง อยากจะให้ท่านเป็นนักปกครองตาม จึงเลือกเรียนตามความประสงค์ของบิดา และในขณะที่ศึกษาอยู่ เมื่อมีเวลาว่าง ก็จะเข้าเรียนพิเศษภาษาอังกฤษกับครูเฉลิม

สำหรับการเรียนวิชารัฐศาสตร์จบด้วยการสอบไล่ได้ที่ 1 ของชั้นเรียน หลังจากการที่ท่านศึกษาอยู่ในปีสุดท้าย นักศึกษาในปีนั้นต้องเข้ารับการซ้อมรบเสือป่าในฐานะนักเรียนเสือป่ารักษาพระองค์ และในการซ้อมรบครั้งนี้เองทำให้ชีวิตของท่านเปลี่ยนแปลงไป เดิมนั้นต้องการเป็นข้าราชการปกครอง กลับต้องมาเป็นข้าราชการในสำนัก เพียงเพราะล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 6 เห็นรูปร่างเล็ก จึงรับสั่งถามว่า “ตัวเล็กๆ อย่างนี้ถ้าเกิดข้าศึกดักทำร้ายแล้วจะสู้เขาไหวหรือ”

ถ้อยคำกราบบังคมทูลในครั้งนั้นเป็นที่พอพระราชหฤทัยของล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 6 มาก

หลังจากซ้อมรบเสือป่าเสร็จสิ้นแล้ว ก็ทรงโปรดเกล้าฯ ให้เป็นฝ่ายในและโปรดเกล้าฯ ให้เข้าไปรับใช้ประจำห้องบรรทมในที่สุด

ด้วยความจงรักภักดีที่มีต่อล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 6 จึงปฏิบัติรับใช้ด้วยความขยันและซื่อสัตย์จนเป็นที่โปรดปรานของล้นเกล้าฯ จนได้รับโปรดเกล้าฯ พระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น เจ้าพระยาพานทองที่ พระยานรรัตนราชมานิต เมื่อปี พ.ศ.2462 (ขณะนั้นท่านอายุเพียง 25 ปีเท่านั้น) และได้รับพระราชทานสายสะพาย ประถมาภรณ์มงกุฎไทย

ต่อมา เมื่อรัชกาลที่ 6 สวรรคต จึงอุปสมบทในวันถวายพระเพลิงพระบรมศพ เพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศล ณ วัดเทพศิรินทราวาส โดยมี สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ ญาณวรเถร) เป็นพระอุปัชฌาย์ ขณะที่บวช เจ้าคุณนรฯ มีอายุ 28 ปี

ครั้งแรกนั้นท่านลาบวชเพียงพรรษาเดียว จากนั้นก็ผัดเป็นสองพรรษา สามพรรษา แม้กระทั่งรัชกาลที่ 7 ทรงเห็นว่า พระยานรรัตนราชมานิต เป็นผู้ที่ซื่อสัตย์ มั่นคงทั้งสูงด้วยความกตัญญูกตเวที ทั้งเป็นผู้ที่มีความรู้สูง สมควรที่จะแต่งตั้งให้รับราชการต่อไป

ดังในสัญญาบัตรแต่งตั้งตอนหนึ่งมีใจความว่า “ขอประกาศแก่ท่านทั้งหลายทั้งปวงฤาผู้หนึ่งผู้ใด ซึ่งจะได้พบอ่านคำประกาศนี้ให้ทราบว่า เราได้ตั้งใจให้จางวางตรี เจ้าพระยานรรัตนราชมานิต (ตรึก จินตยานนท์) ปม.ท. จมว.ม. ล.มว. ป.ร.ต. ซึ่งเป็นที่รักใคร่ไว้วางใจของเราเป็นองคมนตรีรับปรึกษาราชการในตัวเรา เพิ่มศักดินาขึ้นอีก 1,000 เพื่อจะได้ช่วยเราคิดทำนุบำรุงแผ่นดินให้เป็นคุณประโยชน์มีความเจริญสมบูรณ์ ฯลฯ”

แต่ก็ไม่ยอมลาสิกขาออกไปรับตำแหน่ง

ยังให้ความสำคัญการออกรับบิณฑบาตตอนเช้ารวมทั้งการลงโบสถ์ การสวดมนต์ทำวัตรเช้า–เย็น อย่างเคร่งครัด ตลอดเวลาที่อยู่ในสมณเพศ

จนกระทั่งถึงแก่กาลมรณภาพ วันที่ 8 ม.ค. 2514 สิริอายุ 74 ปี พรรษา 46

ดังนั้น ทุกวันที่ 8 ม.ค.ของทุกปี ถือเป็นวันคล้ายวันมรณภาพ “พระภิกษุพระยานรรัตนราชมานิต” วัดเทพศิรินทราวาส กรุงเทพฯ

สำหรับการบำเพ็ญกุศลวันคล้ายวันมรณภาพ เป็นที่รู้กันดีในหมู่ลูกศิษย์ลูกหาผู้เคารพศรัทธาเลื่อมใสว่า จะกำหนดจัดให้มีขึ้นทุกวันที่ 8 มกราคม เป็นประจำทุกปี




โดยสมาชิก ชื่อ M Windsor
จากกลุ่ม รูปถ่ายเก่า ภาพพิมพ์เก่า พระเกจิคณาจารย์ โชว์ได้ซื้อขายอิสระ