“ท่านมหาฤษี นารท นารโษตตมะ”
(ท่านอาจารย์พ่อ วินิจ ลุปต์

“ท่านมหาฤษี นารท นารโษตตมะ”
(ท่านอาจารย์พ่อ วินิจ ลุปต์ซ่า)

“ความเป็นมา” พอสังเขป

นับจากตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2509 ที่ “องค์สมเด็จพระบรมครูท่านท้าวมหาพรหมธาดา” ได้มีโองการให้อาจารย์ วินิจ ลุปต์ซ่า (อาจารย์พ่อ)​ เป็นผู้เผยแพร่ธรรมะของ “องค์สมเด็จพระบรมครูท่านท้าวมหาพรหมธาดา” สืบต่อจากท่านอาจารย์วิรัช ลุปต์ซ่า (พระผู้สำเร็จของบรรดาศิษย์ทั้งหลาย)​ ท่านอาจารย์พ่อได้ศึกษาค้นคว้าทั้งทางโลก และทางธรรม โดยได้เผยแพร่ อบรม สั่งสอน ให้ศิษยานุศิษย์ทั้งหลายให้เข้าถึงหลักธรรมของ “องค์สมเด็จพระบรมครูท่านท้าวมหาพรหมธาดา” อันเป็นสัจธรรมที่เป็นความจริงตามธรรมชาติ ซึ่งมีมาแต่เก่าก่อนคู่มากับโลกนี้ เมื่อผู้ใดได้นำไปปฏิบัติ ก็จะพบกับความจริงด้วยตัวของตนเอง และนำมาซึ่งความสุขความเจริญ การอยู่ร่วมกันอย่างสันติในทุกสังคมทุกเชื้อชาติและทุกศาสนา ไม่แบ่งเขาแบ่งเรา อันนำมาซึ่งสันติสุขอย่างแท้จริงบนโลกใบนี้ มีบุคคลเป็นจำนวนมากมาย ได้มาฝากตัวเป็นศิษยานุศิษย์ของท่านอาจารย์พ่อ ท่านได้อบรมสั่งสอนศิษย์ด้วยความรักความเมตตาต่อศิษย์ทุกๆคน จนถึงเมื่อวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2545 ท่านจึงได้ละสังขารจากโลกนี้ไป สิริอายุได้ 85 ปี 7 เดือน นับเป็นเวลากว่า 36 ปี ที่ท่านทำหน้าที่ครูบาอาจารย์ตามที่ได้รับโองการจาก “สมเด็จพระบรมครูท่านท้าวมหาพรหมธาดา” ด้วยความรักความเมตตาที่มีต่อศิษย์ทุกคน ทำให้ศิษย์ทุกๆคนมีความอาลัยรักและระลึกถึงในคุณงามความดีของท่านอาจารย์พ่ออย่างหาที่สุดมิได้
ในช่วงเวลาที่ท่านอาจารย์พ่อได้ทำการอบรมสั่งสอนศิษยานุศิษย์อยู่นั้น ท่านได้นำเอาหลักธรรมอันเป็นสัจธรรมสูงสุดของ ธรรมชาตินี้ และประกอบอยู่ใน “องค์สมเด็จพระบรมครูท่านท้าวมหาพรหมธาดา” มาเป็นหัวใจในการเผยแพร่และอบรมสั่งสอนศิษยานุศิษย์ คือ ธรรมะ 4 ประการ อันได้แก่
สันโดษ สัจจะ เมตตา กรุณา

ธรรมะทั้ง 4 ประการนี้เป็นทั้งบุญฤทธิ์ และอิทธิฤทธิ์ผู้ใดยึดมั่นปฏิบัติอยู่เป็นนิจ ย่อมมีแต่ความสุขความเจริญก้าวสู่ทางธรรม เพื่อเข้าให้ถึงซึ่ง “องค์สมเด็จพระบรมครูท่านท้าวมหาพรหมธาดา” อันเป็นจุดสูงสุดและความปรารถนาสูงสุดของศิษยานุศิษย์ทั้งหลาย
ความภูมิใจที่สุดของท่านอาจารย์พ่อ ก็คือการได้ค้นพบอักขระ เลขยันต์ อันเป็นมงคล และได้ประสิทธิ์ประสาทให้แก่ลูกศิษย์ของท่าน ในยุคสมัยของท่านเป็นที่สุดของอาจารย์ผู้ประสิทธิ์ประสาท อักขระ เลขยันต์ ให้แก่ศิษยานุศิษย์ ไม่ปรากฏว่ามีอาจารย์ท่านใด มีชื่อเสียงในทางประสิทธิ์ประสาท อักขระ เลขยันต์ ได้เท่าเทียมกับท่านอาจารย์พ่อ จึงมีศิษยานุศิษย์มากมายมาขอรับอักขระ เลขยันต์ (ครูของ)​ จากท่านจนบางคนจำไม่ได้ว่าได้รับ “ครูของ” จากท่านไปแล้วกี่ครั้ง ทุกครั้งที่มีการรับ “ครูของ” ท่านจะมอบคาถาสำหรับกำกับ อักขระ เลขยันต์ (ครูของ)​ ให้แก่ศิษย์ท่องจำจนขึ้นใจ
คาถาสำหรับกำกับ “ครูของ” เช่น โอม พุทธะสะลา

คาถาเหล่านี้จึงเป็นส่วนหนึ่งที่ท่านอาจารย์พ่อภูมิใจที่สุด ที่ได้มอบให้แก่ลูกศิษย์ของท่าน ด้วยความรักความเมตตา และเมื่อท่านอาจารย์พ่อมีอายุครบ 60 ปี ท่านได้ละเพศฆราวาสออกถือบวช เป็นนักบวชมุ่งแสวงหาธรรม เพื่อให้เข้าใกล้ชิดกับ” องค์สมเด็จพระบรมครูท่านท้าวมหาพรหมธาดา” ยิ่งๆขึ้นไป โดยท่านได้ยึดเอาหลักปฏิบัติของ “พระมหาฤษี” มาเป็นแนวทางปฏิบัติ เป็นศีลในการเป็นนักบวชของท่าน

ขอขอบพระคุณคณะศิษย์แห่ง”องค์ธรรม” ทุกๆท่านที่ด้ายจดบันทึกข้อมูลไว้เผยแพร่ให้แด่อนุชนคนรุ่นหลังไว้สืบสานและต่อยอดแห่งบารมีครูบาอาจารย์ หากผิดพลาดพลั้งใดๆด้วยความเบาแห่งปัญญาก็ดี ด้วยความรู้เท่าถึงการณ์ก็ดี ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี ด้วยความรู้ตัวก็ดี ด้วยความไม่รู้ตัวก็ดี ด้วยความประมาทพลาดพลั้งสิ่งหนึ่งสิ่งใดไป ข้าพเจ้าขอขมากรรมแด่ครูบาอาจารย์และคณะศิษย์”แห่งองค์ธรรม” ทุกๆรูปทุกๆนามไว้ ณ. ที่นี้ด้วยครับ ขอลงเพื่อเผยแพร่บารมีครูเป็นวิทยาทาน (ขอสาธุธรรมขอรับ)​🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🙏🌺🌻🌷🌹🌼🌹🌷🌻🌺🌻🌷🌹🌼🌹🌷🌻🌺🌻🌷🌹🌼🌹🌷🌻🌺🌻🌷🌹🌼🌹🌷🌻🌺🌻🌷🌹🌼🌹🌷



โดยสมาชิก ชื่อ Ekkapong Saebe
จากกลุ่ม ชมรมคนรักพระเหรียญ จักรเพชร พระพรหมธาดา และเหรียญเกจิอาจารย์ทั่วไป