พระบูชาหลวงพ่อทอง วัดคลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เนื้อปู

พระบูชาหลวงพ่อทอง วัดคลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เนื้อปูน หน้าตัก5 นิ้ว ปี2507 หายากๆ สภาพสวยน่ารักครับพุทธคุณล้นเหลือน่าเก็บสะสมครับ หายากมากๆทุกสภาพครับ โทร 0891971234
###หลวงพ่อทอง วัดคลองแห” ที่นามเดิมท่านชื่อ “ทอง มุณีเพชรรัตน์” เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๑๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๓๐ ณ บ้านเกาะยอ อ.เมือง จ.สงขลา บิดาชื่อ “แก้ว” มารดาชื่อ “สุก” พออายุ ๑๗ ปี ได้บวชเป็นสามเณรที่ “วัดคลองแห” กับ “หลวงพ่อปลอด อาคม” หนึ่งพรรษาจึงลาสิกขามาช่วยทำนาและดูแลมารดาอยู่ ๓ ปีกระทั่ง พ.ศ. ๒๔๕๑ อายุได้ ๒๑ ปี จึงกลับไปอุปสมบทที่ “วัดคลองแห” อีกครั้งโดยมี “พระครูศรีสุวรรณวาสี” (ย้อย) วัดดอน ต.คลองอู่ตะเภาเป็นพระอุปัชฌาย์ “หลวงพ่อปาน ปุญญมนี” วัดคลองเรียน เป็นพระกรรมวาจาจารย์และ “พ่อท่านปลอด อาคม” เป็นพระอนุสาวนาจารย์ได้ฉายาว่า “คงฺฆสฺสโร” โดยจำพรรษาอยู่วัดคลองแหพร้อมทำการเรียน “สวดมนต์จบภาณยักษ์, สวดปาติโมกข์” กระทั่ง ๗ พรรษาผ่านไปจึงกราบลา “พ่อท่านปลอด” ไปจำพรรษาที่ “วัดสังเหยา” กับ “ท่านจันทร์” เพื่อศึกษาบาลี-นักธรรมอีก ๑ พรรษา จึงย้ายไป “วัดท่าวัง” จ.นครศรีธรรมราช เพื่อศึกษาบาลีกับ “ท่านเจียม” ก่อนกลับมาอยู่วัดคลองแหอีกครั้ง
ล่วงรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า-สำเร็จวิชากระสุนคด

อันวิชา “กระสุนคด” เป็นอีกวิชาหนึ่งในทางไสยเวทที่ตกทอดกันมาแต่โบราณโดยใช้ “คันธนูยิงกระสุนดินเหนียวปั้น” และอธิษฐานจิตบังคับให้ลูกกระสุนวิ่งไปทางทิศใดก็ได้ซึ่งแน่นอนวิชานี้ผู้ทำได้ต้องมี “พลังจิตกล้าแข็ง” และต้องมีการฝึกฝนสมาธิมาอย่างดี
ต่อมา “หลวงพ่อทอง” ได้เดินเท้าถึง ๑๒ วันจึงไปถึง “วัดบางแซะ รัฐกลันตัน” ประเทศมาเลเซียที่มี “หลวงพ่อครน” เป็นเจ้าอาวาสเพื่อเรียนพุทธาคมซึ่งก่อนเรียน “หลวงพ่อครน” ได้พูดกับ “หลวงพ่อทอง” ว่า ถ้าคุณตั้งใจเรียนให้เดินทางไปหา “อาจารย์พรหม” วัดพระพุทธ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ด้วยเหตุนี้หลังจากเรียนวิชาอยู่กับ “หลวงพ่อครน” อยู่ระยะหนึ่ง “หลวงพ่อทอง” จึงกลับไปเรียนพุทธาคมกับ “อาจารย์พรหม” และ “อาจารย์อินทร์, อาจารย์หมวก” แห่ง วัดพระพุทธ จ.นราธิวาส อยู่ ๒ ปี จึงกราบลาอาจารย์ทั้งสามกลับไปจำพรรษาที่ “วัดคลองแห” อีกครั้งเพราะ “พระอุปัชฌาย์ย้อย” ชราภาพแล้วพร้อมกับมรณภาพในเวลาต่อมา “หลวงพ่อทอง” จึงเป็นผู้จัดการจัดงานศพพระอุปัชฌาย์ต่อมา “หลวงพ่อปาน” และ “หลวงพ่อปลอด” ต่างเห็นชอบให้หลวงพ่อทองไปปกครอง “วัดดอน” หลวงพ่อทอง ก็ไม่อาจปฏิเสธจึงไปปกครอง “วัดดอน” อยู่ ๑๐ พรรษา จึงออกธุดงค์ไปหลายจังหวัดและหลายปีจึงกลับมาจำพรรษายัง “ป่าช้าวัดคลองแห” ซึ่งขณะนั้น “พระอั้น จันทโชโต” เป็นเจ้าอาวาส ต่อมา “พระอั้น จันทโชโต” ได้ลาสิกขาชาวบ้านจึงนิมนต์ “หลวงพ่อทอง” เป็น เจ้าอาวาสสืบแทน ซึ่งหลังจากเป็นเจ้าอาวาสแล้ว “หลวงพ่อทอง” ก็ทำการปกครองและสร้างสรรค์ความเจริญรุ่งเรืองให้ “วัดคลองแห” เป็นอันมากอยู่นานถึง ๒๑ ปี เพราะท่านมีลูกศิษย์มากมายที่ศรัทธาเลื่อมใสในความศักดิ์สิทธิ์ของท่าน จวบจนวันศุกร์ที่ ๒๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๐๕ หลวงพ่อทองก็ถึงกาลมรณภาพด้วยอาการสงบรวมสิริอายุ ๗๕ ปี ๕๓ พรรษา
ศพของหลวงพ่อทอง ได้รับการบำเพ็ญกุศลที่ วัดระฆังโฆษิตาราม ธนบุรี 2 คืน ทั้งนี้เนื่องจาก พระมหาวิสุทธิ์ ปุญญสัสโร และ พระมหาอารี เขมจาโร ซึ่งเป็นพระมหาชาวใต้มาอยู่จำพรรษาที่วัดระฆัง และพี่น้องชาวใต้ที่อยู่ในกรุงเทพฯ ซึ่งเคยได้ยินได้ฟังถึงกิตติศัพท์ชื่อเสียงของหลวงพ่อทองมาก่อน ต่างได้ช่วยกันร่วมบำเพ็ญกุศลศพหลวงพ่อทองอย่างพร้อมเพียงกัน
หลังจากนั้น วันที่ 30 ก.ค. 2505 คณะศิษย์ อันมี พระอาจารย์บุญ ภาสโร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดคลองแห สมัยนั้น พร้อมทั้ง นายหนูอินทร์ ไชยถาวร แพทย์ประจำตำบลคลองแห ก็ได้เดินทางมากรุงเทพฯ และนำศพหลวงพ่อทองกลับหาดใหญ่
ศพของหลวงพ่อทองได้นำไปบำเพ็ญกุศล ณ วัดคลองแห แล้วจึงได้ทำการฌาปนกิจในเวลาต่อมา บรรจุอัฐิของท่านในปี พ.ศ. 2507
สิริรวมอายุของหลวงพ่อทองได้ 75 ปี พรรษา 53 ####






โดยสมาชิก ชื่อ ชาป้องกัน ณัฐวุฒิ เกิดทิพย์
จากกลุ่ม พระพุทธรูป พระบูชาทุกวัด ทุกสำนัก (เน้นพระบูชา)