#Admin๘๘๘
นำมาให้ชม
##พระตรัยรัตนมหายาน หรือที่วงการพระ

#Admin๘๘๘
นำมาให้ชม
##พระตรัยรัตนมหายาน หรือที่วงการพระเรียกว่า “พระนารายณ์ทรงปืน” หรือ บางท่านเรียก “แผงนารายณ์” มีมาตั้งแต่โบราณ เข้าใจว่าเป็นสมัยที่ขอมเรืองอำนาจ ขอมในสมัยนั้นจะเรืองด้วยวิทยาการและอิทธิฤทธิ์มากมาย ฉะนั้นพระพิมพ์ขอมแบบนี้จึงเชื่อกันว่ามีคงกระพันสูงมาก เมื่ออาราธนาติดตัวแล้ว สามารถหยุดอาวุธต่างๆ ได้
พระนารายณ์ทรงปืน น่าจะมาจากการมองรูปองค์พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรมีลักษณะ 4 กร เหมือนกับพระวิษณุ หรือพระนารายณ์ และพระองค์ยังทรงถือสายบัวปัทมะที่ยาวเหยียดคล้ายกับคันศรของพระนารายณ์ ครูบาโบราณาจารย์บอกว่า ในสมัยก่อนมักจะเรียกอาวุธที่พุ่งออกไปว่า “ปืน” ดังนั้น การเรียกว่า “ทรงปืน” น่าจะสื่อถึงการ “ทรงศร” ซึ่งก็คือสายบัวชมพูหรือปัทมะขององค์อวโลกิเตศวรนั่นเอง
พระนารายณ์ทรงปืน นับเป็นพระเครื่องที่ได้รับความนิยมอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอยู่ยงคงกระพันและแคล้วคลาด อีกทั้งศิลปะยังงดงามเข้มขลัง แปลกแตกต่างจากพระเครื่องอื่นๆ ทั่วไป มีที่มาที่ไปชัดเจน และทรงคุณค่าทางด้านประวัติศาสตร์โบราณคดีพระนารายณ์ทรงปืน เป็นพระพิมพ์ในสมัยลพบุรี ต่อมาอิทธิพลของศิลปะแบบนี้ได้มีการสร้างสืบทอดกันอย่างต่อเนื่องในหลายกรุ หลายเนื้อ หลายอาจารย์ หลายเมือง ดังปรากฏที่มีการขุดพบพระพิมพ์นี้จากหลายกรุ อาทิ ในลานกรุทุ่งเศรษฐี จ.กำแพงเพชร, กรุวัดเขาพนมเพลิง จ.สุโขทัย, กรุวัดชุมนุมสงฆ์ จ.สุพรรณบุรี, กรุวัดราชบูรณะ จ.พระนครศรีอยุธยา, กรุงศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ แต่ที่ขึ้นชื่อลือชาคือ “พระนารายณ์ทรงปืน กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จังหวัดลพบุรี”
##เนื้อหามวลสาร
พระนารายณ์ทรงปืน มีทั้งเนื้อชินเงิน เนื้อดิน และเนื้อตะกั่วสนิมแดง บางองค์มีทองเก่าปิดมาด้วย บางองค์ทาชาดสีแดงแบบแห้งสนิทเกาะติดแน่น ด้านหลังมีทั้งแบบลายผ้าเล็กๆ และแบบหลังเรียบตัน นอกจากยังมีการพบพระพิมพ์นี้ที่ จ.พิจิตร เป็นเนื้อชินเขียว องค์พระมีขนาดเล็กกว่าของเมืองอื่นๆ
สีสันวรรณะจึงมีหลากหลาย อาทิ เนื้อดินก็มีทั้ง องค์ดำทั้งองค์ แดงทั้งองค์ หรือขาวทั้งองค์ มีทั้งเนื้อหยาบและละเอียด ส่วนเนื้อสำริด ก็จะมีสีดำสนิท เนื้อเหลืองขาว ที่เรียกว่า ‘สำริดทอง’ เพราะแก่ทองคำ สำริดเงิน เพราะแก่เงิน เป็นต้น
##พุทธลักษณะ
พุทธศิลปะได้รับอิทธิพลจากศิลปะแบบขอมบายน ซึ่งก็คือ “ศิลปะสมัยลพบุรี” ลักษณะเป็นพระแผงขนาดใหญ่ กว้างประมาณ 5.3 ซม. สูง 6.7 ซม. มีรูปเคารพ 3 องค์ ภายในซุ้มกนกเสมาครอบแก้วแบบกว้าง เหนือซุ้มครอบแก้วขึ้นไปประดับด้วยลวดลายปั้นแบบลายนูนต่ำเป็นศิลปะของขอมในพุทธศตวรรษที่ 15-18 ฐานด้านล่างที่ประทับของรูปเคารพทั้ง 3 องค์ โดยส่วนใหญ่จะเป็นฐานบัวสองชั้นอย่าง สวยงาม
รูปเคารพทั้ง 3 องค์ ประกอบด้วย “พระปางนาคปรก” เป็นประธานอยู่ตรงกลาง ประทับนั่งปางสมาธิ เหนือขนดนาค 3 ชั้น ซึ่งแผ่พังพานอยู่เหนือพระเศียรรวม 7 เศียร ส่วนพระโพธิสัตว์ประทับอยู่ด้านข้างทั้ง 2 อันได้แก่ พระอวโลกิเตศวร และ พระนางปรัชญา ปารมิตาเทวี ซึ่งเป็นองค์พระโพธิสัตว์ในคติพุทธศาสนาแบบมหายาน โดยเบื้องขวา เป็น อวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ ประทับยืน 4 กร 2 พระกรบน ถือลูกประคำและพระคัมภีร์ 2 พระกรล่าง ถือดอกบัวและคนโทน้ำอมฤต เบื้องซ้ายเป็น พระนางปรัชญาปารมิตา เทพีแห่งสติปัญญาและความเฉลียวฉลาด ได้ชื่อว่าเป็นพุทธมารดาแห่งพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
##พุทธคุณ
พุทธคุณโดดเด่นทั้งเรื่องอยู่ยงคงกระพัน แคล้วคลาดปลอดภัย อำนาจบารมี ป้องกันเสนียดจัญไร ภูตผีปีศาจ ลาภยศ ตำแหน่งการงาน ทรัพย์สินเงินทอง และมีความสุขความเจริญนะครับผม
พุทธศิลปะได้รับอิทธิพลจากศิลปะแบบขอมบายน ซึ่งก็คือ “ศิลปะสมัยลพบุรี” ลักษณะเป็นพระแผงขนาดใหญ่ กว้างประมาณ 5.3 ซม. สูง 6.7 ซม. มีรูปเคารพ 3 องค์ ภายในซุ้มกนกเสมาครอบแก้วแบบกว้าง เหนือซุ้มครอบแก้วขึ้นไปประดับด้วยลวดลายปั้นแบบลายนูนต่ำเป็นศิลปะของขอมในพุทธศตวรรษที่ 15-18 ฐานด้านล่างที่ประทับของรูปเคารพทั้ง 3 องค์ โดยส่วนใหญ่จะเป็นฐานบัวสองชั้นอย่าง สวยงาม
รูปเคารพทั้ง 3 องค์ ประกอบด้วย “พระปางนาคปรก” เป็นประธานอยู่ตรงกลาง ประทับนั่งปางสมาธิ เหนือขนดนาค 3 ชั้น ซึ่งแผ่พังพานอยู่เหนือพระเศียรรวม 7 เศียร ส่วนพระโพธิสัตว์ประทับอยู่ด้านข้างทั้ง 2 อันได้แก่ พระอวโลกิเตศวร และ พระนางปรัชญา ปารมิตาเทวี ซึ่งเป็นองค์พระโพธิสัตว์ในคติพุทธศาสนาแบบมหายาน โดยเบื้องขวา เป็น อวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ ประทับยืน 4 กร 2 พระกรบน ถือลูกประคำและพระคัมภีร์ 2 พระกรล่าง ถือดอกบัวและคนโทน้ำอมฤต เบื้องซ้ายเป็น พระนางปรัชญาปารมิตา เทพีแห่งสติปัญญาและความเฉลียวฉลาด ได้ชื่อว่าเป็นพุทธมารดาแห่งพระพุทธเจ้าทั้งหลาย







โดยสมาชิก ชื่อ พิษณุ อกอุ่น
จากกลุ่ม พระกริ่งพระชัยวัฒน์ รูปหล่อ พระหมวดพระมหากษัตริย์