อ่านเพิ่มเติม "สวัสดีวันศุกร์ครับทุกท่าน นำพระปิดตาหลวงปู่ยิ้มวัดหนอง"" />

สวัสดีวันศุกร์ครับทุกท่าน นำพระปิดตาหลวงปู่ยิ้มวัดหนอง

สวัสดีวันศุกร์ครับทุกท่าน
นำพระปิดตาหลวงปู่ยิ้มวัดหนอง

สวัสดีวันศุกร์ครับทุกท่าน
นำพระปิดตาหลวงปู่ยิ้มวัดหนองบัว จ.กาญจนบุรี พิมพ์แข้งซ้อน เนื้อผงพุทธคุณผสมว่าน ดินรังหมาร่า ฯลฯมาให้ชมและศึกษากันครับ

หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว จ.กาญจนบุรี ท่านเป็นชาววังด้ง จังหวัดกาญจนบุรี เกิดวันอังคาร เดือนห้า ปีมะโรง พ.ศ.2387 เป็นบุตรนายยิ่ง นางเปี่ยม บิดาและมารดาประกอบอาชีพค้าไม้ไผ่ล่องเรือไปขายที่ปากอ่าวแม่กลอง เมื่อวัยเด็กท่านมีอุปนิสัยใจคอเป็นคนเด็ดเดี่ยวกล้าหาญ เป็นนักเลง พูดจริงทำจริง ท่านได้เป็นกำลังช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพค้าไม้ไปขายทางปากอ่าวแม่กลองจนคุ้นเคยกับชาวแม่กลองเป็นอย่างดี ครั้นอายุครบบวชได้อุปสมบทที่ วัดทุ่งสมอ อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี โดยมี พระอธิการรอด เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์แดง วัดเหนือ และพระอาจารย์อินทร์ วัดทุ่งสมอ เป็นพระคู่สวด ได้รับฉายาว่า จันทโชติ เมื่อบวชแล้วเรียนอักษรขอม ภาษาบาลี มงคลทีปนี มูลกัจจายน์ พระมาลัย พระเจ้าสิบชาติ ท่องสูตรสนธิจนช่ำชอง สามารถท่องพระปาฏิโมกข์ได้ ตั้งแต่พรรษาที่ 2 ด้วยท่านใฝ่ในวิชาความรู้ จึงได้รับคำแนะนำจากพระอุปัชฌาย์ว่า เมืองบางช้าง สมุทรสงคราม มีพระอาจารย์เก่งๆหลายสำนัก วิชาแขนงต่างๆไม่ซ้ำกัน ท่านจึงได้มุ่งมาทางเมืองบางช้าง ซึ่งท่านมีความคุ้นเคยอยู่ตั้งแต่สมัยที่ติดตามครอบครัวล่องแพไม้ไผ่ไปขาย วัดแรกที่ท่านเข้าไปศึกษา คือ วัดบางนางลี่น้อย อ.อัมพวา มี พระปลัดทิม ซึ่งเป็นสหายกับอุปัชฌาย์ของท่านเป็นเจ้าอธิการเรียนทางน้ำมนต์โภคทรัพย์ ยุคนั้นเชื่อกันว่าใครได้อาบน้ำมนต์วัดนี้ คนจนก็จะรวย ถ้าเป็นขุนนางก็จะได้เลื่อนยศฐาบรรดาศักดิ์ พระปลัดทิมมีวิชาทำผงทางเมตตามหานิยม และวิชาโหราศาสตร์ ฤกษ์ล่าง ฤกษ์บนต่างๆ(ปัจจุบันวัดนี้ได้ถูกน้ำเซาะตลิ่งจมหายไปในแม่น้ำแม่กลองแล้ว เสนาสนะต่างๆภายในวัดได้ถูกรื้อไปสร้างเป็น วัดภุมรินทร์กุฎีทอง ในปี2467 สมัยพระอธิการเกีย พรหมโชโต) วัดต่อมา คือ วัดลิงโจน ต่อมาเรียกว่า วัดปากสมุทรสุดคงคา คืออยู่ปากอ่าวแม่กลองกับ พระอธิการพึ่ง อินทสโร ท่านมีวิชาทำธงกันอสุนีบาตสายฟ้าฟาดและกันพายุคลื่นลมในทะเล ชาวเรือทะเลนับถือมาก วิชาหวายลงอักขระของท่านทำเป็นรูปวงกลม ว่ากันว่าเวลาขาดน้ำจืด เอาหวายนี้โยนลงทะเลแล้วตักน้ำภายในวงหวายจะได้น้ำจืดทันที ส่วนหมากทุยของท่านก็ลือชื่อ พระอธิการรูปนี้สำเร็จมนต์จินดามณีเรียกปลาเรียกเนื้อได้แบบสังข์ทอง พระอาจารย์องค์ต่อมาคือ หลวงพ่อกลัด วัดบางพรม อัมพวา เรียนทางมหาอุตม์ ผ้าเช็ดหน้าเป็นมหานิยม ท่านองค์นี้ย่นระยะทางและสามารถเดินบนผิวน้ำได้โดยที่ตัวไม่เปียกน้ำ และพระอาจารย์องค์ต่อมาคือ หลวงพ่อแจ้ง วัดประดู่ อัมพวา เรียนทางแผนโบราณ มีหมอปราบภูตผีปีศาจ ทางมหาประสาน เชือกคาดเอวถักเป็นรูปกระดูกงู ชื่อตะขาบไฟหรือไส้หนุมาน มีตะกรุดคู่อยู่หัวเชือกกันเขี้ยวงาและทางคงกระพันชาตรี หลังจากเรียนวิชาต่างๆจนหมดสิ้นแล้ว ได้ทราบข่าวว่าวัดหนองบัว มีปรมาจารย์ที่เก่งกล้า ทรงกิตติคุณโด่งดังที่สุดองค์หนึ่งในสมัยนั้น ท่านคือ พระอุปัชฌาย์กลิ่น ซึ่งได้บำเพ็ญภาวนา วิปัสสนาธุระ ภายใน ถ้ำพุพระ (ถ้ำขุนแผน) เขตบ้านหนองบัว อ.เมือง จ.กาญจนบุรี พระอาจารย์องค์นี้มีอายุร้อยกว่าปี ชำนาญอภิญญามีอิทธิคุณถึงล่องหนหายตัวได้ การสร้างพระเครื่องของหลวงปู่ยิ้มนั้น ตามประวัติบันทึกของ พระโสภณสมาจารย์(เหรียญ สุวรรณโชติ)กล่าวว่า …หลวงปู่ยิ้มชอบทางรุกขมูลธุดงค์วัตร ออกพรรษาแล้วเข้าป่าเจริญสมาธิในป่าลึก ท่านรู้จักภาษา นก สัตว์ป่าทุกชนิด จิตกล้าแข็ง จะทำเครื่องรางชนิดใดก็ขลังไปทุกอย่าง… หลวงปู่ยิ้ม ท่านได้เป็นเจ้าอาวาสวัดหนองบัวต่อจากอุปัชฌาย์กลิ่น ท่านได้ปฏิบัติทางวิปัสสนาจนมีชื่อเสียและเป็นอาจารย์สอนทางวิปัสสนากรรมฐาน ต่อมาท่านได้สร้างเครื่องรางขึ้นหลายอย่าง เพื่อแจกจ่ายให้ผู้ที่ต้องการนำไปติดตัวเป็นที่พึ่ง หนึ่งในเครื่องรางที่มีชื่อเสียงของท่านคือ ตะกรุดลูกอม(โลกธาตุ)เป็นตะกรุดขนาดเล็กใช้ติดตัว เมื่อถึงคราวคับขันจวนตัวจะถูกทำร้ายให้กลืนเข้าไปในท้องจะล่องหนหายตัวป้องกันอันตรายได้ ตะกรุดนี้เชื่อว่าสามารถออกมาจากร่างกายได้เอง โดยให้ตั้งจิตอธิษฐานก่อนนอนรุ่งขึ้นตะกรุดก็จะออกมาอยู่ข้างตัว โดยจะไม่ออกทางทวารเบื้องต่ำแต่จะออกมาทางปาก จึงเรียกว่า ตะกรุดลูกอม ลงยันต์ด้วยหัวใจโลกธาตุเป็นคาถาพระพุทธเจ้าเดินจงกลม ท่านได้ถ่ายทอดวิชาให้สามลูกศิษย์ต่อมาศิษย์องค์ใดที่จะเรียนตะกรุดจะต้องนั่งสมาธิเพ่งไส้เที่ยนให้ขาดก่อนจึงสามารถเรียนวิชาทำตะกรุดโลกธาตุได้ และท่านได้ยังสร้าง พระปิดตาอันโด่งดังมีหลายเนื้อด้วยกัน อาทิเช่น เนื้อผงสีเหลือง และเนื้อผงคลุกรักสีดำ ดีทางด้านเมตตามหาลาภ วัตถุมงคลของท่าน มีชื่อเสียงโด่งดังจนเข้าถึงหูทั้งเจ้านายและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ จนกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ซึ่งโปรดวิชาไสยศาสตร์ ได้มากราบขอเป็นลูกศิษย์และเรียนวิชาท่านได้มีดหมอจากหลวงปู่ยิ้ม ไว้ใช้ประจำพระองค์หนึ่งเล่ม มีสรรพคุณปราบภูตผีปีศาจและปราบคนที่อยู่ยงคงกระพัน พระองค์ทรงนับถือหลวงปู่ยิ้มมาก ทั้งๆที่พระองค์เป็นศิษย์เอกของ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า และหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ศิษย์หลวงปู่ยิ้มมีชื่อเสียงโด่งดังทุกองค์ อาทิเช่น 1. พระโสภณสมาจารย์(เหรียญ)วัดหนองบัว 2.พระเทพมงคลรังษี(ดี)วัดเหนือ 3.พระกาญจนวัตรวิบูลย์(สอน)วัดทุ่งลาดหญ้า 4.พระโสภณสมณกิจ(หัง)วัดเหนือ 5.พระครูวัตตสารโสภณ(ดอกไม้)วัดดอนเจดีย์ 6.พระราชมงคลวุฒาจารย์(ใจ)วัดเสด็จ 7.พระอธิการแช่ม โสฬส วัดจุฬามณี 8.พระครูสกลวิสุทธิ์(เหมือน)วัดกลางเหนือ เป็นต้น หลวงปู่ยิ้ม จันทโชติ ถึงแก่มรณะภาพเมื่อพ.ศ.2453 สิริอายุได้ 66 ปี หลวงปู่ยิ้มวัดหนองบัว ท่านเริ่มสร้างพระปีพ.ศ2439ส่วนผสมผงของท่านจะใช้ของธรรมชาติเป็นส่วนมาก มีพญากาฝากที่เป็นสิริมงคล108คดไม้มลคล108ไม้มงคลที่ตายพราย108ต้นว่านมงคล108ชนิด เกสร108ชนิด ไม้ไผ่ตัน คดข้าวสารดำ ข้าวสารหิน สมุดใบข่อย สมุดใบลานเก่าๆที่ขาดไม่ได้ใช้ผงธูปไหว้พระ ข้าวสุกก้นบาตรพระพุทธนำมาตากแห้ง ลูกมะพร้าวที่มีตาเดียวหรือกะลาตาเดียวเป็นมหาเสนห์ ลูกมะพร้าวที่ไม่มีตาหรือกะลาไม่มีตาเป็นมหาอุตม์ คดมะพร้าว กิ่งโพธิ์นิพพานคือกิ่งโพธิ์ที่หักลงมาเองทางทิศตะวันออก ไม้ไก่กุก คือเวลาที่ไก่เพศผู้เรียกหาไก่เพศเมียร้องกุกกุกไก่เพศเมียวิ่งมาให้ผสมพันธ์ด้วยกันนำไม้ที่ไก่เพศผู้จิกหรือคุ้ยเขี่ยอยู่ในบริเวณนั้นบดเป็นผง ปูนากระตุกเดือน5นำขุยปากรู กบจำศีลเดือน5ตายคารูกบนั้นมาเผาไฟป่นเป็นผง เขี้ยวงูจงอางตัวที่ฟักไข่จนตัวตายคาไข่ที่ฟัก ไม้คานคุก ไม้คานประตูคุก ตัวชันณรงค์ที่สร้างรังอยู่ตามชายป่าลักษณะคล้ายจอมปลวกแต่จะต้องอยู่กลางแจ้งเท่านั้น ถ้าอยู่ตามโพรงไม้ใช้ไม่ได้และต้องให้ดวงอาทิตย์ส่องให้ตั้งตรงกับปากรูพอดีนำรังของตัวชันณรงค์นั้นมาทำเป็นผงไม้คานแม่หม้ายคือไม้คานที่ใช้หาบของขาย สากกระเบือแม่หม้ายที่มีสามีแล้วสามีตาย เป็นอาธรรพ์แก้คุณไสยต่างๆ ไม้คานและสากกระเบือของผู้หญิงที่ไม่มีสามีจนแก่เฒ่าตายต้องตายวันเสาร์ เผาวันอังคาร เขาควายเผือกที่ถูกฟ้าผ่าตาย เขี้ยวเสือโปร่งเป็นมหาอำนาจเขี้ยวหมูตันเป็นคงกะพันมหาอุตม์ คดสมองวัวจะเป็นก้อนหินที่อยู่ในสมองวัวมีอนุภาพทางตบะเดชะ ผู้เจตนาร้ายไม่กล้าขยับปากด่าว่าให้ร้ายป้องกันเขี้ยวงาอยู่ยงคงกะพัน คดขนุนเป็นหินที่เกิดในพืชถือว่าเป็นของที่ศักดิ์สิทธิ์ขึ้นเองตามธรรมชาติ คดขนุนเกิดจากลูกขนุนที่มีลูกขึ้นอยู่ใต้ดินเมื่อผ่าดูจะพบคดขนุนอยู่สองถึงสามลูกชื่อกันว่าคดขนุนต้นนั้นมีเทพยดาอาศัยอยู่ มีอนุภาพค้ำชูดวงชะตา เมตตามหานิยม มหาอุตม์ งาช้างดำ (งาที่กลายเป็นหิน)มีอนุภาพครอบจักรวาล งากำจัด งากำจาย งาช้างน้ำ เขากวางคุดมีอนุภาพทางด้านแคล้วคลาด พญางูปากเป็ดลือเลื่องอนุภาพทางบันดาล โชคลาภ ตะไคร้โบสถ์ ตะไคร้เสมา108เสมา ตะไคร์เจดีย์ใหญ่108เจดีย์ กระเบื้องหลังคาโบสถ์ที่เลิกใช้แล้ว108โบสถ์ โบสถ์ดินศักดิ์สิทธิ์ตามที่ต่างๆดินจากสังเวชนียสถานทั้ง4ที่ประสูติ ตรัสรู้ แสดงปบมเทศนาและปรินิพาน ท่านได้มาตอนที่ไปธุดงค์ที่อินเดีย แร่ธาตุต่างๆที่เป็นธาตุกายสิทธิ์มีความขลังความศักดิ์สิทธิ์ในตัวเองตามธรรมชาติ อาทิเช่น เพชรหน้าทั่ง ดินกากยายัก เหล็กสังฆวนร เหล็กน้ำพี้ รังเหล็กไหล ข้าวตอกพระร่วง แร่ธาตุต่างๆที่108สัตว์ที่มีรูปร่างแปลกๆซึ่งมีความศักดิ์สิทธิ์ตามธรรมชาติ เช่น จิ้งจกสองหาง จิ้งจกห้าหาง นำมาเผงไฟแล้วบดเป้นผง อัญมณี12สีมีความหมายเท่ากับ12ราศี ตะไคร้หลักเมืองทุกเมืองในสมัยนั้นน้ำฝนเดือนห้าตกรดหลังคาโบสถ์108โบสถ์ รังหมาร้า น้ำฝนกลางหาวคือน้ำฝนเดือนห้าที่ตกลงมากลางแจ้ง โดยนำดอ่งมารองน้ำฝนบริเวณกลางแจ้ง นำน้ำนั้นมาผสมตอนทำพระหลวงปู่ยิ้มท่านได้ลบผงพุทธคุณ ผงปถมัง ผงอิทธิเจ ผงตรีนิสิงเหและผงมหาราชท่านยังได้ผงมาจากหลวงปู่กลิ่นซึ่งท่านได้มาจากวัดระฆังเป็นจำนวน1กะลามาผสมด้วย และได้พระผงเก่าที่แตกหักจากกรุต่างๆซึ่งหลวงปู่เนียน วัดน้อย จังหวัดสพรรรบุรี เป็นผู้เอามาให้ ที่จำได้มีผงสุพรรณ พระขุนแผน พระกรุวัดถ้ำเสือและพระผงหักอีกหลายกรุมาบดเป็นผงหลวงปู่ยิ้มท่านจึงให้ตะกั่วพระท่ากระดานหักและตะกั่วนมประมาณ100กิโลกรัมกลับไป หลวงปู่อยู่ซึ่งเป็นศิษย์เอกหลวงปู่จีน วัดท่าลาดภายหลังหลวงปู่จีนมรณภาพจึงได้มาศึกษาวิชากับหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว และอยู่ประจำวัดจนหลวงปู่ยิ้มมรณภาพ หลวงปู่อยู่ท่านเป็นกำลังสำคัญในการทำพระผง หลวงปู่ยิ้มกับหลวงปู่อยู่เคยออกธุดงธ์ด้วยกันผ่านประเทศพม่าธุดงค์ไปจนถึงประเทศอินเดียท่านได้ไปมนัสการต้นศรีมหาโพธิ์และท่านยังเก็บใบโพธิ์และดินบริเวณนั้นมาในสมัยนั้นยังเอามาง่าย หลวงปู่ยิ้มกับหลวงปู่อยู่ท่านยังได้ไปเรียนวิชาทำผงพุทธคุณอึดใต้บานพระบัวเข็มกับพระมอญที่เมืองมัณฑะเลหลวงปู่ยิ้มจึงได้ผงพุทธคุณนี้มาผสมในผงพระด้วย หลวงปู่ยิ้มได้รวบรวมผงสร้างพระปิดตามหาลาภถึง3ปี ตั้งแต่ปีพ.ศ2439-พ.ศ2441 หลวงปู่ยิ้มได้ปรารภกับหลวงปู่อยู่ ก๋งพ๋ง ปู่ชื่นและท่านหมื่นปรารภบุญไมยพ่อบ้านเหลี่ยม บุญน้อยในสมัยนั้น หลวงปู่ยิ้มได้ปรารภว่าได้รวบรวมของทำผงจนครบหมดแล้วขาดสิ่งเดียวถ้าไม่ได้สิ่งนี้ก็ทำพระปิดตามหาลาภไม่ได้เพราะยังไม่ครบสูตรถ้าจะทำมันพระสุดยอดของพระปิดตาหลวงปู่ยิ้มพูดว่าถ้ามีบุญวาสนาคงสร้างพระปิดตาจนร่วงปีพ.ศ.2442เดือนมกราคมมีผึ้งหลวงใหญ่มาทำรังที่เกศพระประทานในโบสถ์วัดหนิงบัวทำรังไปจนถึงตาพระพุทธเป็นผึ้งหลวง หลวงปู่ยิ้มท่านดีใขมากพอขึ้นเดือนเมษายนวันที่1พ.ศ.2442หลวงปู่ท่านได้ ทำพิธีขอรังผึ้งตรงที่รังผึ้งใหญ่ที่ทำรังปิดตาอยู่ ท่านขูดรังผึ้งตรงที่ปิดตาจนเกลี้ยงพอถึงวันที่13เมษา2442หลวงปู่ยิ้มท่านได้ทำพิธีผสมของศักดิ์สิทธิ์ต่างๆที่ท่านได้รวบรวมเอาไว้ หลวงปู่ยิ้มได้ปลุกเสกจนถึงพ.ศ.2445ท่านได้นำออกมาแจกเป็นทานให้กับศิษย์และผุ้ที่มาทำบุญ หลวงปู่ยิ้มได้มอบพระปิดตาให้กับหลวงปู่ใจ วัดเสด็จไปแจกจำหน่ายเพื่อนำรายได้มาบำรุงวัดที่จะต้องบูรณะลูกศิษย์รูปไหนที่มาขอพระปิดตาไปแจกท่านก็มอบให้ วันที่หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม จังหวัดสมุทรสงคราม เคยได้รับพระปิดตามหาลาภไปแจกวันที่ได้รับการแต่งตั้งเป็น พระอุปัชณาย์ ในสายลุมแม่น้ำแม่กลองจะมีพระปิดตามหาลาภของหลวงปู่ยิ้มมากพอสมควรทุกวันนี้พระปิดตาหลวงปู่ยิ้มหายากมาก ขอโทษนะทุกวันนี้เซียนพระดูของปลอมเป็นของจริงดูของจริงเป็นของปลอม นอกจากพระปิดตาแล้วหลวงปู่ท่านยังสร้างเครื่องรางของขลังอีกมากมาย อาทิเช่น เบี้ยแก้ มีดหมอ ตะกรุด หวายคาดเอว แหวนพิรอด และที่มีคนนิยมกันมากลูกอมหลวงปู่ยิ้ม ซึ่งเป็นที่เลื่องลือมาก ท่านพระยาประสิทธิ์สงคราม(นุช มหานีรานนท์) เจ้าเมืองกาญจนบุรีในสมัยนั้น ถ้าลงมาราชการที่กรุงเทพมหานครครั้งใด ทางกรุงเทพ จะต้องถามว่าท่านเจ้าคุณมีตะกรุดลูกอม วัดหนองบัวมาฝากบ้างหรือเปล่า จึงถือว่าเจ้านายและข้าราชการผู้ใหญ่ทางกรุงเทพ นับถือหลวงปู่ยิ้มจริงๆ ด้วยเหตุที่พระพิมพ์นี้แกะจากหินมีดโกน วิธีการกดพิมพ์พระจึงต้องใส่เนื้อพระให้เต็มพิมพ์ก่อน จากนั้นจึงทำการปาดเนื้อพระที่เกินออก ด้านหลังจึงมีลักษณะปาดเรียบ ให้องค์พระที่สมบูรณ์จะเห็นรายปาดชัดเจน เว้นแต่พระที่แกะมาจากขันน้ำมนต์และแกะจากเสาโบสครั้งบูรณะครั้งใหญ่ซึ่งจะเป็นแบบหลังเรียบ และเมื่อแกะองค์พระออกจากแม่พิมพ์จึงได้มีการปาดเนื้อพระด้านข้างออก จึงทำให้สันฐานขององค์พระมีขนาดแตกต่างกันขึ้นอยู่กับการปาดชิดหรือห่างจากองค์พระ เนื้อพระเมื่อผ่านการใช้วรรณะจะคล้ำขึ้น ล้างไม่ออก ในพระปิดตาหลวงปู่ยิ้ม พิมพ์ใหญ่ , พิมพ์พระสังกัจจายน์ และพิมพ์แข้งซ้อน จะพบว่า มีทั้งประเภทลงรักเก่ามาแต่เดิม ตั้งแต่สมัยหลวงปู่ยิ้ม และพระเภทนำพระที่ไม่ได้ลงรัก มาลงรักใหม่ ในสมัยหลวงปู่เหรียญ ผู้เป็นศิษย์ และเป็นเจ้าอาวาสองค์ต่อมา หรืออาจจะแท้กระทั่งในยุคต่อมา เจ้าของนำพระมาลงรักเอง เพื่อเป็นการรักษาสภาพพระให้คงคนถาวร ฉนั้นการพิจารณาเรื่อรักที่ใช้ลง จึงเป็นสิ่งสำคัญประการหนึ่งที่ไม่สามารถมองข้ามได้ พุทธคุณ ดีครบทุกด้าน โดยเฉพาะแคล้วคลาด ปลอดภัย ประสบกับตัวผู้เป็นเจ้าของ







โดยสมาชิก ชื่อ นพดล ประเสริฐผล
จากกลุ่ม พระปิดตายอดนิยมและพระปิดตาทั่วไป

Exit mobile version